วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วิตามินเอแก้สิว!!!!!!

วิตามินเอ กับสิว


วิตามินเอนั้นจำเป็นต่อร่างกายในแง่ของสุขภาพผิวและความสมดุลของฮอร์โมน งานวิจัยยืนยันว่าคนที่เป็นสิวรุนแรงนั้นมีระดับวิตามินเอในเลือดต่ำ มีรายงานมากมายที่บันทึกเกี่ยวกับหญิงวัยผู้ใหญ่ที่มีภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลและเป็นสิว และได้รับการรักษาสิวให้หายภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากได้รับอาหารเสริมวิตามินเอ รวมถึงรอยแผลที่เกิดจากสิวก็หายไป หลังจากได้รับอาหารเสริมวิตามินเอ 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยสังเกตว่าไม่มีสิวใหม่ขึ้นอีกใน 5 ปี ผู้ป่วยอีกรายรายงานว่า หน้าของเธอใส เกลี้ยงขึ้นใน 1 เดือนหลังจากได้รับวิตามินเอ แหล่งที่มาทางธรรมชาติของวิตามินเอที่ดีคือ แครอท ผักใบเขียว (เช่นบร๊อคโคลี่, กระหล่ำเขียว, ผักขม) ผลไม้สีเหลือง/สีส้ม (เช่นลูกพีช, แอพริคอท, มะม่วง)
วิตามินเอ คืออะไร - - วิตามินเอเป็นวิตามินที่สำคัญที่ช่วยในเรื่องของการมองเห็น, การเจริญเติบโตของกระดูก, การสร้างใหม่, การแบ่งเซลล์ และความแตกต่างของเซลล์ (เช่น เซลล์ที่เป็นส่วนหนึ่งของสมอง, กล้ามเนื้อ, ปอด, เลือด หรือเนื้อเยื่อพิเศษ วิตามินเอช่วยในการควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วยป้องกัน หรือต่อสู้กับเชื้อโรคโดยการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวขึ้นมาทำลายแบคทีเรียและไวรัส วิตามินเอยังอาจช่วยลิมโฟไซท์ส (ประเภทของเซลเม็ดเลือดขาว) ต่อสู้เชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น วิตามินเอนั้นสร้างด่านป้องกันบริเวณดวงตา, ทางเดินหายใจ, ท่อปัสสาวะ และลำไส้ เมื่อพื้นที่บริเวณเหล่านั้นไม่ทำงาน แบคทีเรียก็จะเข้ามาในร่างกายได้ง่ายขึ้น และร่างกายก็จะติดเชื้อ วิตามินเอยังช่วยผิว และเยื่อบุผิวบริเวณช่องจมูกและปากเป็นการป้องกันแบคทีเรียและไวรัส โดยทั่วไปแล้ววิตามินเอจะมีอยู่ 2 ชนิด ขึ้นอยู่กับว่าได้จากแหล่งใดของอาหาร พืชหรือสัตว์
วิตามินเอในอาหารที่ได้จากสัตว์เรียกว่า พรีฟอร์มวิตามินเอ ที่จะถูกดูดซึมในรูปของเรตินอล ซึ่งเป็นแบบที่ได้ผลดีที่สุด แหล่งอาหารดังกล่าวคือ ตับ, นม
วิตามินเอที่ได้จากผลไม้และผักเรียกว่า โปรวิตามินเอ แคโรทีนอยด์ โดยทั่วไปจะพบสารแคโรทีนอยด์ได้จากพืช เช่นเบต้า-แคโรทีน, อัลฟ่า-แคโรทีน และเบต้า-คริปโตซานทิน เหล่านี้เบต้า-แคโรทีนนั้นเป็นตัวที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในการทำให้เป็นเรตินอล อีกสองตัวที่เหลือนั้นก็สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้แต่ให้ประสิทธิภาพแค่เพียงครึ่งหนึ่งของเบต้า-แคโรทีน ในจำนวนแคโรทีนอยด์ 563 ประเภท น้อยกว่า 10% ของทั้งหมดที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายได้ แคโรทีนอยด์บางชนิดนั้นสามารถทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระได้


ที่มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น